ทรูมูฟ เอช เริ่มจำหน่าย Apple Watch Series 3 แล้ววันนี้ !!


EADB5CC1-4C18-4EDA-B057-038804D098DD

ทรูมูฟ เอช ประกาศวางจำหน่าย Apple Watch Series 3 คู่หูด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม โดยเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ที่ทรูช้อปสาขาที่ร่วมรายการ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและสาขาที่จัดจำหน่ายได้ที่www.truemoveh.com/applewatchseries3

“ทรูมูฟ เอช ในฐานะผู้นำเครือข่าย 4G+ ที่ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ มีแบนด์วิธกว้าง เร็วและแรง ยินดีที่ได้มอบประสบการณ์อีกขั้นของ Apple Watch Series 3 แก่ผู้บริโภคชาวไทย” นายทวนทอง ศรีวิเชียร ผู้อำนวยการด้านบริหารผลิตภัณฑ์ดีไวซ์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าว “Apple Watch Series 3 มาพร้อมฟีเจอร์เกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกายใหม่มากมาย สามารถเป็นเจ้าของ Apple Watch Series 3 ได้แล้ววันนี้ที่ทรูช้อป 40 สาขาทั่วประเทศ”

Apple Watch Series 3 (GPS) เป็นคู่หูด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติการฝึกสอนอัจฉริยะ ความสามารถในการทนน้ำที่ 50 เมตร มีโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core ที่เร็วขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์ และเครื่องวัดระดับความสูงสัมพัทธ์จากความกดอากาศ

 

Uber พร้อมเปิดให้บริการที่เมืองขอนแก่นเด้อ


891206CE-653B-4545-9375-E018212E6052
Uber ประเทศไทย เปิดบริการ uberX และ uberFLASH ให้ชาวขอนแก่นและผู้มาเยือนสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายขึ้นอีกระดับเพียงแค่แตะและเรียกก็เดินทางได้ด้วยเทคโนโลยีร่วมเดินทางระดับโลกจาก Uber ได้แล้ววันนี้
นางสาวศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย Uber กล่าวว่า “จังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นศูนย์รวมของธุรกิจ สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการสำคัญๆ และมีนักท่องเที่ยวที่มาดื่มด่ำวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ซึ่งการเดินทางในเขตเมืองมีความคับคั่ง ในขณะที่ผู้คนมีความต้องการบริการรถโดยสารที่ให้ความสะดวกในการเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ และ Uber เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เชื่อมต่อระบบการเดินทางต่างๆ ในจังหวัดให้ทุกคนสามารถร่วมเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างง่ายๆ สะดวก รวดเร็วและปลอดภัยในราคาที่เหมาะสม เพราะหากมีระบบการเดินทางที่ดีจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คน เศรษฐกิจในท้องถิ่นและก่อให้เกิดรายได้ของคนพื้นที่มากยิ่งขึ้น”
สำหรับพื้นที่ให้บริการ uberX และ uberFLASH ในขอนแก่นจะครอบคลุมบริเวณตัวเมือง โดยทิศเหนือครอบคลุมไปถึงหมู่บ้านซำจาน ทิศตะวันออกครอบคลุมจนถึงสุดขอบจังหวัดขอนแก่น ทิศใต้ครอบคลุมไปถึงตำบลโนนสมบูรณ์ และ ทิศตะวันตกครอบคลุมไปถึงตำบลบ้านทุ่ม
อัตราค่าโดยสาร Uber ในขอนแก่นเริ่มต้น 20 บาท หลังจากนั้นคิดค่าโดยสารต่อกิโลเมตรละ 2 บาท รวมค่าโดยสารต่อนาทีละ 2 บาท ซึ่งราคาค่าโดยสารขั้นต่ำอยู่ที่ 40 บาท และหากมีการยกเลิกจะคิดค่าธรรมเนียมยกเลิก 35 บาท ( ค่าธรรมเนียมยกเลิก จะเกิดขึ้นต่อเมื่อ 1.กดยกเลิกการเดินทางหลังกดเรียกรถแล้ว 5 นาที 2.พาร์ทเนอร์ไปถึงจุดนัดรับและไม่พบหรือไม่สามารถติดต่อคุณได้หลังจาก 5 นาทีผ่านไปแล้ว)

B38A72B2-2008-44D0-A96F-8093DDB07080
ในช่วงทำความรู้จักกันนี้ Uber จัดส่วนลดให้ 50 บาท 3 ครั้ง เพียงใส่รหัสนี้ KKCUBER (ส่วนลดสูงสุด 50 บาท 3 ครั้ง สำหรับผู้ใช้ใหม่ เฉพาะบริการ uberX และ uberFLASH ในขอนแก่นเท่านั้น โปรโมชั่นใช้ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560)

ซัมซุง เปิดขาย กาแลคซี่ เอส 8 อย่างเป็นทางการใน 5 พฤษภาคม นี้!


 

ซัมซุงเปิดตัว กาแลคซี่ เอส 8 ในประเทศไทย ที่พร้อมจะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการสมาร์ทโฟน ตอกย้ำฟีเจอร์สุดล้ำที่จะทำให้คุณก้าวข้ามทุกขีดจำกัดและทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ หรือ Do What You Can’t ด้วยจอภาพไร้กรอบ ไร้ปุ่มโฮม และกล้องประสิทธิภาพสูง

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ที่ซัมซุง เราเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมและแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภค ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 อีกหนึ่งสมาชิกจากตระกูลกาแลคซี่ที่ผสานดีไซน์และเทคโนโลยีไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และเนื่องจากผลสำรวจเผยให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวไทยใช้เวลาเกือบสี่ชั่วโมงบนสมาร์ทโฟนต่อวัน และเกือบ 45 นาทีสำหรับเอนเตอร์เทนเม้นท์ อินฟินิตี้ ดิสเพลย์ (Infinity Display) หรือหน้าจอไร้กรอบและปุ่มโฮม จึงสนองประสบการณ์การรับชมที่ไร้สิ่งรบกวน พร้อมกล้องประสิทธิภาพสูงด้วยศักยภาพการทำงานที่เหนือชั้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่อยู่ในยุค Mobile First คือการที่กิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นและเชื่อมต่อผ่านทางสมาร์ทโฟน”
ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 สมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์ล้ำสมัยกับจอภาพไร้กรอบ พร้อมการใช้งานที่ครบครัน โดยจอภาพขนาด 5.8 นิ้ว สำหรับกาแลคซี่ เอส 8 และ 6.2 นิ้ว สำหรับกาแลคซี่ เอส 8+ ผ่านการออกแบบพื้นผิวด้านหน้าที่เรียบลื่น ไร้ปุ่มโฮมและเหลี่ยมมุม เพิ่มความสะดวกสบายด้วยการใช้งานแบบพร้อมกันหลายหน้าจอ (Multi-tasking)
นอกจากฟีเจอร์เฉพาะตัวของสมาร์ทโฟนในกลุ่มกาแลคซี่ที่เน้นศักยภาพรอบด้านแล้ว ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8 ยังมาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยีไบโอเมตริก อาทิ ระบบสแกนม่านตา ระบบสแกนลายนิ้วมือ และระบบตรวจจับใบหน้า รวมถึงความปลอดภัยเหนือชั้น ซัมซุง นอกซ์ (Samsung Knox) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยเกรดเทียบเท่าของกองทัพ พร้อมมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าด้วย ซัมซุง เกียร์ วีอาร์ เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์เสมือนจริง ซัมซุง เกียร์ 360 ที่มอบภาพความละเอียดในระดับ 15MP และวีดีโอ 4K แบบ 360 องศา และซัมซุง เด็กซ์ ที่จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป
ซัมซุงได้เปิดจองสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ผ่านทางช่องทางออนไลน์ของซัมซุงและพันธมิตร ระหว่างวันที่ 17-23 เมษายนที่ผ่านมาโดยได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ ซัมซุงยังจะเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ของกาแลคซี่ เอส 8 ที่เป็นตัวแทนของชีวิตความไร้กรอบที่หมายถึงการก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อเปิดโอกาสสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ
“เรามั่นใจว่าการเปิดตัวกาแลคซี่ เอส 8 เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มสมาร์ทโฟนในครั้งนี้ จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีเหนือความคาดหมาย เฉกเช่นสมาร์ทโฟนเรือธงของบริษัทเคยได้รับตลอดมา เพราะกาแลคซี่ เอส 8 จะนำท่านออกจากกรอบจำกัดที่คุ้นเคยไปสู่กาแลคซี่ที่กว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้”

HUAWEI P10 และ P10 Plus พร้อมวางจำหน่ายในไทย


 

กระแสตอบรับดีสมกับเป็นแบรนด์ชั้นนำในตลาดสมาร์ทโฟนกล้องคู่จริงๆ สำหรับ ‘HUAWEI P10 และ P10 Plus’ สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับนวัตกรรมจากไลก้าทั้งกล้องหลังเลนส์คู่และกล้องหน้า หลังจากกวาดยอดพรีออเดอร์ ถล่มทลายสูงกว่ารุ่นก่อนกว่า 4 เท่าตัว “ทศพร นิษฐานนท์” รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย ไม่ปล่อยให้แฟนคลับชาวไทยต้องรอนาน สั่งทีมเตรียมพร้อมวางจำหน่าย HUAWEI P10 ทั้งรุ่น 32 GB และ 64 GB ในวันที่ 31 มีนาคมนี้ และ HUAWEI P10 Plus ในวันที่ 10 เมษายนนี้ ณ หัวเว่ยแบรนด์ช้อปทุกสาขาและร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ดีแทค เตรียมวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus (PRODUCT)RED Special Edition และ iPad ใหม่


IMG_0663.JPG

ดีแทค เตรียมวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus (PRODUCT)RED Special Edition ตัวเครื่องอะลูมิเนียมสีแดงสวยสด และ iPad ใหม่มาพร้อมจอภาพ Retina ขนาด 9.7 นิ้วที่สว่างขึ้นและทรงประสิทธิภาพอันเหนือชั้นในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยการเปิดตัว iPhone รุ่นพิเศษนี้เปิดช่องทางให้ลูกค้าได้ร่วมสมทบทุนให้กองทุนโลก (Global Fund) และพาโลกของเราเข้าใกล้ยุคใหม่ที่ปราศจากโรคเอดส์มากขึ้นอีกนิด ลูกค้าดีแทคและผู้สนใจสามารถสั่งซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus (PRODUCT)RED Special Edition และ iPad รุ่นใหม่ได้ในเร็วๆนี้ ที่ dtac online store http://www.dtac.co.th ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPhone และ iPad ได้ที่ http://www.apple.com/th

OPPO ส่ง OPPO R9s Plus เสริมทับเขย่าตลาดสมาร์ทโฟน


IMG_0651.JPG

หลังจากที่ OPPO R9s เปิดตัวไปได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ก็เล่นเอาตลาดสมาร์ทโฟนเมืองไทยสั่นสะเทือนกันเลยทีเดียว ล่าสุดออปโป้เตรียมส่ง OPPO R9s Plus สมาร์ทโฟนรุ่นท๊อป ตอกย้ำความเป็น Camera Phone ร่วมหนุนทับกับ OPPO R9s ช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้แก่แบรนด์ออปโป้
OPPO R9s Plus มีจุดเด่นด้านการถ่ายภาพที่คมชัด ด้วยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังที่มีความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล โดยกล้องหลังมาพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ Sony IMX398 ผสานกับเทคโนโลยีกันสั่น OIS+ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกันสั่นได้ดีกว่าเดิมถึง 40% และรูรับแสงที่กว้างเป็นพิเศษถึง F 1.7 ทำให้สามารถถ่ายภาพคมชัดได้ในทุกสภาพแสง พิเศษสุดๆ OPPO R9s Plus ยังมาพร้อม RAM ที่สูงถึง 6 GB และแบตเตอรี่ที่มีความจุมากถึง 4,000 mAh ทำให้หมดกังวัลแม้จะใช้งานหนักแค่ไหนก็ไม่สะดุด
OPPO R9s Plus วางจำหน่ายที่ราคา 16,990 บาท เปิดให้พรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 25 – 31 มีนาคมนี้ สำหรับผู้ที่พรีออเดอร์รับไปเลย OPPO Exclusive Box ที่มาพร้อม ไม้เซลฟี่ หูฟังบลูทูธ และนาฬิกาออกกำลังกาย และที่พิเศษไปกว่านั้น OPPO ใจป้ำสุดๆ มอบไปเลย VIP Card ที่จะช่วยขยายเวลาการรับประกันทั้งหน้าจอและตัวเครื่องให้มากขึ้นไปอีก โดยสำหรับการรับประกันหน้าจอ ทาง OPPO เค้าขยายเวลาให้เป็น 12 เดือน และยิ่งไปกว่านั้นสำหรับการประกันตัวเครื่องที่ขยายเวลามาเป็น 18 เดือนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าจัดเต็มและคุ้มสุดๆ
รู้อย่างนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม รีบไปจอง OPPO R9s Plus กันได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/oppothai โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 1 เมษายน 2560

เดลล์เปิดตัว XPS 13 2-in-1 พร้อมจอไร้ขอบขนาดเล็กที่สุดในโลกพร้อมโพรเซสเซอร์ 7th Gen



เดลล์ประกาศเปิดตัว XPS 13 2-in1 คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่เล็กที่สุดในโลก พร้อมจอแบบ InfinityEdge เพื่อมุมมองในการใช้งานแบบไร้ขีดจำกัดจากตระกูล XPS ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมจอมอนิเตอร์ตระกูล S Family Monitor ประกอบด้วย Dell 22 Monitor, Dell 23 Monitor, Dell 24 Monitor, Dell 27 Monitor เพื่อตอบโจทย์การทำงาน และไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างครบครัน
นายธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ตระกูล XPS ได้รับรางวัลทางด้านผลิตภัณฑ์มาเป็นจำนวนมากกว่าแบรนด์อื่นๆ ในประวัติศาสตร์เดลล์ ซึ่งจากความสำเร็จนี้ เดลล์ได้เพิ่ม XPS 13 2-in-1 ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกเข้ามาในสายตระกูล XPS นี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในทุกรูปแบบ
เครื่อง XPS 13 2-in-1 มาพร้อมบานพับแบบ 360 องศา เพื่อการทำงานที่ให้ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น ตอบโจทย์การทำงานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรีย์ที่ใช้งานได้ถึง 15 ชั่วโมง พร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ InfinityEdge ที่คมชัดด้วย QHD+ (5.7 ล้านพิกเซล) ตัวเครื่องเป็นแบบ Fanless design ทำให้ทำงานได้เงียบสนิท พร้อม solid state drive เพื่อเริ่มต้นการทำงานในเวลาเพียงเสี้ยววินาที และสำหรับกลุ่มคนทำงาน หรือเพื่อการใช้งานในธุรกิจ XPS 13 2-in-1 สามารถปรับแต่งเพื่อทำงานบนโพรเซสเซอร์ และ Dell BIOS และซอฟต์แวร์การจัดการ พร้อมการสนับสนุนจากบริการ ProSupport ทั่วโลกของเดลล์อีกด้วย

พร้อมกันนี้ เดลล์ยังเปิดตัวจอมอนิเตอร์ตระกูล S Family 3 รุ่น ประกอบด้วย Dell 22 Monitor, Dell 23 Monitor, Dell 24 Monitor, Dell 27 Monitor ที่ให้ประสบการณ์ที่ประทับใจ กับฟีเจอร์มัลติมีเดียสำหรับโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์

“เดลล์คือผู้นำในด้านการออกแบบ และนวัตกรรมบนพีซี เรามุ่งความสนใจไปที่อนาคต เราจึงเร่งการพัฒนาทางเทคโนโลยีพร้อมเพิ่มการลงทุนในด้าน R&D เพื่อนำผลงานจากศูนย์การวิจัยและพัฒนา 17 แห่งทั่วโลกมาต่อยอดการพัฒนา ซึ่งส่วนนี้จะช่วยให้เราสามารถส่งมอบนวัตกรรมทางเทคโนโลยีให้กับลูกค้าของเราได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับเดลล์ นวัตกรรมของเราคือการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เป็นแรงบันดาลใจในด้านการสร้างสรรค์และการเพิ่มผลผลิตในการทำงาน พร้อมทั้งให้ทางเลือกการใช้งานที่ตรงตามความต้องการแก่ผู้ใช้ เพราะปรัชญาในการออกแบบของเราไม่เกี่ยวกับการออกแบบโดยสิ้นเชิง แต่มุ่งเน้นที่ประสบการณ์ด้านใช้งานของลูกค้า และส่วนปลีกย่อยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสมรรถนะการทำงาน ระยะเวลาการทำงานของแบตเตอรีย์ โมบิลิตี้ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ ความทนทานของคีย์บอร์ด ความสว่างของหน้าจอ ตลอดไปจนถึงบานพับ อุณหภูมิของอุปกรณ์ และอื่นๆ” นายธเนศ กล่าว

เปิดตัว The Infinite Gallery เปิดประสบการณ์ “ความงามโดยไร้ขอบจำกัด” (Beauty without Border)
เพื่อเปิดมุมมองใหม่ผ่านผลิตภัณฑ์ InfinityEdge เดลล์เปิดตัว The Infinite Gallery เสนอมุมมอง 360 องศาเพื่อเน้นย้ำจุดเด่น และความสามารถของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์การทำงาน การแสดงภาพ การออกแบบ และการใช้งานอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน เต็มตา และเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“ทั้งนี้ “The Infinite Gallery” คือการจำลองมุมมองของประสบการณ์ ของภาพถ่าย ตลอดจนผลงานการออกแบบในแบบ 360 องศาเพื่อให้เห็นการทำงานของจอ InfinityEdge รุ่นต่างๆอย่างชัดเจน ตามคอนเซ็ปต์ “ความงามที่ไร้ขอบจำกัด” และเพื่อให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการใช้งาน เราได้รับเกียรติจาก คุณสิงห์-วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล นักแสดง พิธีกร นักท่องเที่ยวเชิงสารคดี และคุณจอร์ช-ธัชพล สุนทราจารย์ นักภูมิสถาปนิกที่มีชื่อเสียง มาเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเทคโนโลยีทันสมัยทั้งเพื่อใช้ในชีวิตส่วนตัว เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เพื่อความบันเทิง ตลอดจนเพื่อการทำงานในแบบไม่หยุดนิ่ง ในการเข้ามาสัมผัสการใช้งานเทคโนโลยีที่มาพร้อม InfinityEdge display ของเราในครั้งนี้” นายธเนศ กล่าว

ลอรีอัล จับมือ วิทธิงส์ เปิดตัว ‘หวีอัจฉริยะ’ ครั้งแรกของโลก คว้ารางวัลนวัตกรรมในงาน CES 2017


img_0491

ลาสเวกัส, 6 มกราคม 2560 – บริษัท ลอรีอัล ได้ร่วมกับ วิทธิงส์ เปิดตัวหวีอัจฉริยะ เคเรสตาส แฮร์ โค๊ช พาวเวอร์บาย วิทธิงส์ (Kérastase Hair Coach Powered by Withings) ซึ่งเป็น smart hairbrush ครั้งแรกของโลก ที่คว้ารางวัลนวัตกรรมใหม่ International CES Innovation Award ในงาน CES 2017

หวีอัจฉริยะ เคเรสตาส แฮร์ โค๊ช พาวเวอร์บาย วิทธิงส์ (Kérastase Hair Coach Powered by Withings) คิดค้นโดยศูนย์วิจัยและนวัตกรรมลอรีอัลร่วมกับวิทธิงส์ ทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์CES 2017ชั้นสูงในการวิเคราะห์ระดับคุณภาพเส้นผม รูปแบบการหวีผม และตรวจสอบผลการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมต่างๆ โดยทำงานคู่กับสมาร์ทโฟนเพื่ออ่านข้อมูล และช่วยแนะนำวิธีการหวีผมและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผม

หวีอัจฉริยะ เคเรสตาส แฮร์ โค๊ช พาวเวอร์บาย วิทธิงส์ ทำงานด้วย ไมโครโฟนในการรับฟังเสียงของรูปแบบการหวีผม และตรวจจับความยุ่ง ความแห้ง ผมแตกปลาย และ ผมเสีย มีโหลดเซลรับน้ำหนัก 3 แกน (3-axis load cells) ที่ตรวจจับน้ำหนักการหวีผมและแรงกดที่หนังศีรษะ มีเซ็นเซอร์ accelerometer และ gyroscope ที่ช่วยวิเคราะห์รูปแบบการหวี จำนวนครั้งของการหวี และสามารถสั่นเตือนในกรณีที่มีการหวีผมที่รุนแรงเกินไป และมีเซ็นเซอร์วัดค่าที่ตรวจจับว่ากำลังหวีในระหว่างผมเปียกหรือผมแห้งเพื่อความแม่นยำในการวิเคราะห์ข้อมูล

เซ็นเซอร์เหล่านี้จะส่งข้อมูลอัตโนมัติผ่านทางไวไฟและบลูทูธไปที่โมบายแอพพลิเคชั่น โดยจะวิเคราะห์ข้อมูลโดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสภาวะอากาศ อาทิ ความชื้น อุณหภูมิ ระดับยูวี และ แรงลม ซึ่งต่างมีผลต่อคุณภาพและการดูแลเส้นผม

หวีอัจฉริยะ เคเรสตาส แฮร์ โค๊ช พาวเวอร์บาย วิทธิงส์ จะวางจำหน่ายในกลางปี 2017 นี้ ในราคาต่ำกว่า 200 เหรียญสหรัฐ ที่ร้านซาลอนเคเรสตาส และทางเว็บไซต์เคเรสตาสและวิทธิงส์

“การคิดค้นเทคโนโลยีเพื่ออัพเกรดหวีแปรงเช่นนี้นับเป็นการปฎิวัติวงการความงาม ที่จะมีผลต่อปรับเปลี่ยนการดูแลความงามและสมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอย่างสิ้นเชิง” กุอีฟ บาลูช รองประธาน ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมลอรีอัลกล่าว

ทรูมูฟ เอช เปิดตัว True Kidz Watch นาฬิกาอัจฉริยะสำหรับเด็ก


img_0404
ทรูมูฟ เอช ตอกย้ำความเป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์ โดดเด่นด้วยอุปกรณ์ IoT สุดล้ำ เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะสำหรับเด็ก “True Kidz Watch” ครั้งแรกในไทยกับหน้าจอสี
แบบทัชสกรีนขนาด 1.22” TFT พร้อมกล้องถ่ายภาพที่ถ่ายได้จากตัวนาฬิกา เพื่อส่งไปยังมือถือของผู้ปกครองได้ทันที หรือจะสั่งถ่ายภาพจากแอพพลิเคชั่นบนมือถือก็ได้ สามารถติดตามทุกการเคลื่อนไหวของลูกน้อย และยังบอกตำแหน่งของนาฬิกาได้อย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยี GPS/LBS และ WiFi Location บนเครือข่ายทรูมูฟ เอช True Kidz Watch มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ รับส่วนลด 50% เหลือเพียง 1,990 บาท จากราคาปกติ 3,990 บาท พร้อมรับเพิ่มฟรี! สายนาฬิกา Limited Edition 3 สี วางจำหน่ายที่ทรูช้อปทุกสาขา ร้าน Banana IT และ
7-Eleven สาขาที่ร่วมรายการ

True Kidz Watch ช่วยตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัลที่นำเทคโนโลยีมาช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถโทรออก-รับสาย (Voice call) แจ้งผู้ปกครองเมื่อมีเหตุฉุกเฉินได้ทันทีผ่าน SOS Function ส่งข้อความเสียงเพื่อคุยกันได้ (Voice Messaging) สามารถตั้งพื้นที่ปลอดภัยได้ถึง 5 จุดเพื่อแจ้งเตือนผู้ปกครองเวลาเด็กออกนอกพื้นที่ (Safety Zone) มีฟังก์ชันไมโครโฟนที่ตัวนาฬิกาเพื่อฟังเสียงเด็กๆ ได้ทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง (Remote Listener) เพิ่มเพื่อนได้แบบง่ายๆ แค่เขย่านาฬิกาพร้อมกัน (Shake Buddy) และยังมีฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมแบตเตอรี่ 500 mAh สแตนด์บายได้นานถึง 5 วัน รับประกันนาน 1 ปี ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนผ่านทางแอพพลิเคชั่นที่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

รายละเอียดข้อเสนอสุดคุ้ม
• สำหรับลูกค้ารายเดือน หาซื้อได้ที่ทรูช้อป ทุกสาขา และ ร้าน Banana IT สาขาที่ร่วมรายการ
o เปิดเบอร์ใหม่ หรือย้ายค่ายเบอร์เดิมระบบรายเดือน รับส่วนลด 50% ซื้อ True Kidz watch เพียง 1,990 บาท (จากปกติ 3,990 บาท) เมื่อสมัครแพ็กเกจ IoT Smart Watch 99 บาท รับเน็ตฟรี 1 GB พร้อมโทรฟรีในเครือข่าย 24 ชั่วโมง ค่าบริการส่วนเกินจากแพ็กเกจ ค่าโทรนอกเครือข่าย 1.50 บาท/นาที SMS ข้อความละ 3 บาท MMS ครั้งละ 5 บาท
o ลูกค้าปัจจุบัน ทรูมูฟ เอช ผู้ถือบัตรทรูการ์ด และใช้ TrueMove H Package 499 ขึ้นไป
รับส่วนลด 50% ซื้อ True Kidz watch เพียง 1,990 บาท เมื่อเปิดเบอร์ใหม่แบบรายเดือนเพื่อใช้กับ True Kidz Watch พร้อมสมัครแพ็กเกจ IoT Smart Watch 99 จ่ายค่าบริการเหลือเพียงเดือนละ 49 บาท (ปกติ 99 บาท/เดือน) ระยะเวลานาน 12 เดือน รับเน็ต 1 GB พร้อมโทรฟรีในเครือข่าย 24 ชั่วโมง

• สำหรับลูกค้าระบบเติมเงิน รับส่วนลด 50% ซื้อ True Kidz Watch เพียง 1,990 บาท เพียงเปิดซิมพร้อมซื้อแพ็กเกจโทรและเน็ต 100 บาท รับโบนัสค่าโทรและเน็ต 400 บาท พร้อมรับโบนัสเน็ต 500 MB และ
ค่าโทรทุกเครือข่าย 30 นาที และหลังจากเปิดใช้บริการเมื่อเติมเงินสะสมครบ 150 บาทในรอบ 30 วัน รับโบนัสเน็ต 500 MB และค่าโทรทุกเครือข่าย 30 นาทีใช้ได้ 30 วัน ระยะเวลารับสิทธิ์นาน 12 เดือน ค่าบริการส่วนเกินจากแพ็กเกจ ค่าโทรทุกเครือข่าย 1 บาท/นาที เน็ต 0.50 บาท/MB SMS 2 บาท/ข้อความ MMS 2 บาท/ครั้ง WiFi 1 บาท/นาที ซื้อได้ที่ 7-Eleven สาขาที่ร่วมรายการเท่านั้น

Adonit อวดโฉมสไตลัส รุ่นล่าสุด SNAP พร้อมรีโมทถ่ายรูปเซฟฟี่ สเก๊ตภาพ สำหรับมือถือ


IMG_0405.JPG
Adonit (อะโดนิท) ปากกาสไตลัสชั้นนำระดับโลก เปิดตัว Snap (สแนป) รองรับการถ่ายเซลฟีบนสมาร์ทโฟน พร้อมแก้ไขรูปภาพและสร้างภาพวาดได้อีกด้วย และ รุ่น Dash 2 (แดช 2) เป็นสไตลัสที่ใช้งานง่ายที่สุด ไม่ต้องเชื่อมต่อกับแอพ สามารถถ่ายทอดแรงบันดาลใจโดนๆได้ทันที

Adonit Snap มาพร้อมฟีชเชอร์ใหม่ ที่รองรับการถ่ายเซลฟีและรูปถ่ายบนมือถือ เพียงแค่จับคู่กับ iOS หรือโทรศัพท์ Android สามารถเป็นรีโมทสำหรับถ่ายรูป และนำภาพที่ถ่ายมาดีไซน์ ร่างแบบ หรือเขียนบันทึกด้วยลายมือตัวเองได้ทันที่ SNAP มีหัวปากกาขนาด 1.9MM PixelpointTM ทีให้ความรู้สึกเหมือนการเขียนด้วยปากกา ทำให้ Adonit Snap เป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุดสำหรับ การเก็บภาพในช่วงเวลาสำคัญ ร่วมถึงการร่างงาน ด้ามปากกามีขนาดบางแค่ 4.3 มม. เป็นแม่เหล็กที่ยึดติดกับด้านหลังของโทรศัพท์ สะดวกในการนำมาใช้ได้ทันที

แจสเปอร์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยี อะโดนิ กล่าวว่า ” Adonit ได้ออกแบบ Snap ให้มีความแม่นยำในการทำงาน ทันสมัย สวยหรู เป็นรีโมทถ่ายรูป และเซฟฟี่จากสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวก เพื่อตอบรับลูกค้าที่นิยมใช้สมาร์ทโฟน ในการทำงานมากยิ่งขึ้น ซี่ง Adonit ได้ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดของหัวปากกาขนาด 1.9mm ที่มีความแม่นยำในการเขียนและร่างแบบต่างๆ ทำให้ลูกค้าสามารถ รีทัชภาพและจดบันทึกต่างๆ ได้ง่ายดาย”

นอกจากนี้ได้ อะโดนิทมีการพัฒนาไสตลัสรุ่น Dash 2 ให้ใช้งานได้ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะร่างแบบ จดงาน ใช้แทนไฮไลท์ ไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น ด้วยหัวขนาด 1.9 มม. ที่ถูกพัฒนาใหม่ให้การทำงาน เหมือนเขียนจริงบนกระดาษ แม่นยำมากขึ้นและตอบสนองดีขึ้นกว่าเดิม พกพาสะดวกมีคลิปเหน็บเหมือนปากกา รองรับ iPad, iPhone, iOS และ Android แบบสัมผัสหน้าจอ Dash 2 จะทำให้ความคิด แรงบันดาลใจโดนๆได้ถ่ายทอดได้อย่างรวดเร็วในโลกดิจิตอล

Adonit Snap วางจำหน่ายแล้ว ราคา 1,480 บาท และ Adonit Dash 2 ราคา 1,880 บาท